หากปริมาณการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทของคุณลดลง และคุณไม่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลตามที่คุณต้องการโอกาสที่จะถึงเวลาประเมินผลการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา SEO เว็บไซต์ของคุณเพื่อช่วยเพิ่มอัตราการเข้าชม
หากคุณมี SEO ที่มีเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพหรือลิงค์ที่ไม่ดี และการเปลี่ยนเส้นทางของสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยลดอันดับของเครื่องมือการค้นหาของคุณได้ การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด SEO ที่แตกต่างกันหลายบริษัทที่สามารถรวมเข้าไปในเว็บไซต์ของพวกเขา เพื่อช่วยให้ได้รับแรงที่จะช่วยดึงผลลัพธ์การค้นหา และผลักดันให้มีผู้เข้าชมในเว็บไซต์ของพวกเขามากยิ่งขึ้น คุณต้องมาหาว่าปัญหาที่พบเจอเหล่านี้จะแก้ได้อย่างไร
1. การตรวจสอบ SEO
การดำเนินการตรวจสอบ SEO อย่างละเอียดสามารถช่วยเน้นประสิทธิภาพของเว็บไซต์และข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่จะส่งผลกับการจัดอันดับการค้นหาของคุณ นี่คือ 10 ข้อที่อาจจะทำร้ายเว็บไซต์ของคุณหากไม่รีบดำเนินการแก้ไข
1.หน่วยควบคุมการค้นหาของ Google หากคุณไม่มีการตั้งค่านี้ คุณจะไม่สามารถระบุได้ว่า Google กำลังมีปัญหาในการรวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนีเว็บไซต์ของคุณหรือไม่
2.ลิงค์พิษ ในขณะที่การสร้างลิงค์เป็นสิ่งที่จำเป็น แต่การมีลิงค์ที่เป็นพิษมากเกินไปสามารถสร้างปัญหาได้ ลิงค์ที่เป็นพิษ คือ ลิงค์ที่ไปยังเว็บไซต์สแปมหรือลิงค์ที่ไปยังเว็บไซต์ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อที่จะสร้างลิงค์เท่านั้นและบ่อยครั้งที่เว็บไซต์เหล่านี้มีตัวสแปมอยู่
3.ลิงค์เสียและการเปลี่ยนเส้นทาง หากคุณมีการเปลี่ยนเส้นทาง ลิงค์ที่เสียระบบจะทำการจัดอันดับการค้นหาเว็บไซต์ของคุณให้ต่ำลง
4.ประสิทธิภาพ เสิร์ชเอนจิน คือ โปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูลโดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลงและอื่นๆ หากมีโปรแกรมนี้จะช่วยให้ประสิทธิภาพของเว็บไซต์และความเร็วของเว็บไซต์ดีมาขึ้นเมื่อให้คะแนนเว็บไซต์ แต่ถ้าหากคุณมีปลั๊กอินที่ล้าสมัยมากๆก็จะทำให้ความเร็วในการทำงานช้าลง
5.เป็นมิตรกับมือถือ หากเว็บไซต์ของคุณไม่เหมาะกับอุปกรณ์พกพาหรือตอบสนองได้ การพิจารณาอันดับการค้นหาในเว็บไซต์ของคุณก็จะไม่สูง เพราะรองรับการใช้งานได้ไม่หลากหลาย
6.โปรไฟล์ NAP หากโปรไฟล์ชื่อที่อยู่หมายเลขโทรศัพท์ไม่สอดคล้องกันในการค้นหาของ Google ทั้งหมดที่มีข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณก็อาจจะส่งผลต่ออันดับของคุณได้
7.คำแนะนำที่ไม่ดี หากคุณได้รับคำแนะนำที่ไม่ดีในอดีตเกี่ยวกับ SEO และการเขียนเนื้อหา สิ่งนี้อาจจะเป็นอุปสรรคต่อเว็บไซต์ของคุณทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
8.แอมป์เวอร์ชัน หากเว็บไซต์ของคุณไม่มีเว็บไซต์ในเวอร์ชันมือถือเร่ง (AMP) อาจจะเป็นสาเหตุของปัญหาได้ เพราะสิ่งเหล่านี้แตกต่างจากหน้าเว็บสำหรับมือถือ AMP เป็นโครงการใหม่จากTwitterและGoogle ออกแบบมา เพื่อทำให้หน้าเว็บไซต์ใช้งานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
9.การคิดรูปแบบใหม่ การเพิ่มจำนวนคำหลักจะเกิดขึ้น เมื่อคุณแบ่งเนื้อหาออกเป็นสองหน้าซึ่งควรอยู่ในหน้าเดียว Google จะพิจารณาเนื้อหาที่คล้ายกันสองหน้า และพิจารณาว่าควรคิดว่าหน้าใดควรอยู่ในอันดับที่สูงกว่ากัน เมื่อคุณกระจายข้อมูลไปยังสองหน้าแทนที่จะมุ่งเน้นไปที่หน้าที่มีเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นประเด็นหลัก นั้นอาจส่งผลเสียต่ออันดับการค้นหาของคุณ
10.รูปภาพ หากรูปภาพในเว็บไซต์ของคุณมีขนาดใหญ่เกินไป และไม่มีการบีบอัดจะส่งผลต่อความเร็วในการทำงานของเว็บไซต์
2. วิดีโอ YouTube
บางทีคุณอาจจะเคยได้ยินว่าการสร้างวิดีโอ Youtube เพื่อการศึกษาและการตอบคำถามที่พบบ่อยของผู้ใช้งานของคุณนั้นมีประโยชน์อย่างมาก แต่ที่หลายบริษัทล้มเหลวเพราะไม่ได้เชื่อมโยงบัญชี Youtube ให้เข้ากับเว็บไซต์ของพวกเขา หากคุณไม่ได้เชื่อมโยงกันคุณก็อาจจะพลาดการที่ได้รับแรงดึง SEO ของคุณให้อันดับการค้นหาดีขึ้น
Youtube เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ยอดนิยมที่ดึงดูดผู้ใช้งานเกือบสองพันล้านรายต่อเดือน สิ่งใดก็ตามที่ลิงค์จาก Youtube นั้นจะมีคุณภาพอย่างยิ่งไม่ว่าวิดีโอเหล่านี้จะมีจำนวนการดูสูงหรือไม่ก็ตาม มีสองวิธีในการรวมลิงค์เหล่านี้ให้เข้ากับเว็บไซต์ของคุณ
1.เชื่อมโยงเว็บไซต์ให้เข้ากับบัญชี Youtube คุณต้องเชื่อมโยงเว็บไซต์ของคุณให้เข้ากับบัญชี Youtube ของคุณ และทิ้งลิงค์เว็บไซต์ของคุณไว้ใต้วิดีโอ เพราะลิงค์ที่มาจาก Youtube มักเป็นลิงค์ที่มีคุณภาพ
2.แก้ไขคำอธิบาย หากคุณโพสต์วิธีโอใดๆลง Youtube ในช่องของคุณแล้ว ให้คุณแก้ไขคำอธิบายเพื่อรวมหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์ของคุณ แต่ละวิดีโอที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นหน้าคำถามที่พบบ่อยโพสต์บล็อกหรือความเชี่ยวชาญ เพื่อเป็นการดึงดูดผู้ใช้งานให้เข้ามาชมเว็บไซต์ของคุณ
3. เนื้อหา
การใช้คำหลักที่เหมาะสมเป็นวิธีที่จะทำให้การทำ SEO ของคุณมีประสิทธิภาพ และทำให้ SEO ของคุณติดอันดับการค้นหาที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามคุณต้องใช้กลยุทธ์เนื้อหาที่ใช้ในการเน้นเนื้อหาที่ต้องการเน้นต่อไปนี้
- หน้าหลัก หน้าหลักควรกำหนดเป้าหมายคำหลักที่ตรงประเด็นที่ต้องการสื่ออย่างชัดเจน ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับบทความของคุณ
- หน้ารอง หน้านี้ควรมีคำหลักที่เกี่ยวข้องกับการบริการของคุณ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจอย่างตรงประเด็นมากยิ่งขึ้น
- หน้าตติยภูมิ หน้านี้เนื้อหาเป็นคำหลักประเภทวลีสามถึงสี่คำ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งาน
4. ความคิดเห็น
ไม่ว่าคุณจะได้รับความคิดเห็นเชิงบวกหรือเชิงลบ การตลาดออนไลน์เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจของคุณ ผู้ใช้งานต้องการแสดงความคิดเห็นออนไลน์เมื่อเลือกผู้ให้บริการแล้ว คุณจำเป็นต้องตอบสนองต่อบทวิจารณ์โดยทันที และเนื่องจาก Google มีน้ำหนักของบทวิจารณ์จึงจำเป็นต้องตอบกลับความคิดเห็นบนออนไลน์คุณต้องไม่ลืมที่จะตอบรีวิวทั้งหมดที่ให้คะแนน SEO ของคุณ
5. อีเมล
การมีการจัดการอีเมลที่มีคุณภาพนั้นจะช่วยให้ธุรกิจของคุณปรับปรุงปริมาณการใช้เว็บไซต์ นี่คือการจัดการอีเมลให้มีคุณภาพที่ควรพิจารณา
- ใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ให้ใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือชิ้นส่วนของเนื้อหาที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้งานของคุณ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ข้อมูลที่ดีที่สุด
- กลุ่มผู้ใช้งานใหม่ หากคุณต้องการโอกาสในการขายใหม่ให้คุณทำความค้นเคยกับบริษัท และกระบวนการของคุณต้องสร้างวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานในอีกทางหนึ่ง
- รีวิว ใช้ประโยชน์จากผู้ใช้งานรายเก่าที่ผ่านมาและความคิดเห็นเชิงบวกก็สามารถเพิ่มอัตราการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย
การจัดตั้ง 5 ขั้นตอนที่เป็นประโยชน์เหล่านี้สามารถเพิ่มการตลาดออนไลน์ของธุรกิจของคุณ และยังเป็นการเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณแล้วยังช่วยให้คุณได้รับโอกาสในการขายสินค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย