Skip to content
รับทำ SEO

รับทำ SEO

  • รับทำ SEO
  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อตกลง และความเป็นส่วนตัว
  • รับทำ SEO
  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อตกลง และความเป็นส่วนตัว
17 เครื่องมือลับจาก Facebook ที่ช่วยเพิ่ม Engagement ได้จนคุณต้องอึ้ง!
16 มกราคม 202026 มกราคม 2020

17 เครื่องมือลับจาก Facebook ที่ช่วยเพิ่ม Engagement ได้จนคุณต้องอึ้ง!

เชื่อหรือไม่ ว่าการเพิ่ม Engagement ใน Facebook นั้น เป็นเรื่องง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปาก?

ถ้าคุณเชื่อล่ะก็ เราขอบอกเลยว่าคุณกำลังเชื่ออะไรที่ผิดมหันต์ เพราะความจริงแล้ว การเพิ่ม Engagement หรือการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย เช่น ลูกค้า หรือผู้เข้าชมเพจ ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น ซ้ำยังอาจทำให้คุณเสียเงินมหาศาลกว่าจะประสบความสำเร็จ

ยกตัวอย่างกรณีของ Neil Patel ผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงของการทำธุรกิจออนไลน์ ซึ่งเคยเสียเงินกว่า 400,000 ดอลลาร์เพราะซื้อยอดไลก์! แต่ถึงแม้จะทุ่มทุนไปขนาดนั้น การได้ Engagement ก็ยังเป็นเรื่องยาก ต่อให้ Neil จะมีแฟนเพจจำนวนมากก็ตาม

ในตอนนั้น Neil ไม่รู้เลยว่าจะมีตัวช่วยหรือเครื่องมืออะไรบ้าง ที่สามารถช่วยเขาให้เพิ่ม Engagement ได้ เขาคิดว่า Facebook ก็เหมือนกับภูเขาน้ำแข็ง ที่ผู้คนเอาแต่มองไปที่ยอดเขาหรือวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งก็คือ การลงทุนกับโฆษณา โดยที่แทบไม่มีใครรู้ตัวเลยว่า การลงทุนกับโฆษณาไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง เพราะแท้จริงแล้ว มันมีเครื่องมือลับซ่อนตัวอยู่ใน Facebook ด้วยเช่นกัน

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 17 เครื่องมือลับใน Facebook ที่จะช่วยเพิ่ม Engagement ได้อย่างน่าทึ่ง เหมือนอย่างที่ Neil เพิ่ม Engagement  ของเขาได้ถึง 154%!

แต่ก่อนที่จะไปดูทั้ง 17 เครื่องมือนั้น คุณจะต้องมี Mobile Monkey เสียก่อน เพราะมันเป็นตัวช่วยที่จะทำให้เครื่องมือทั้ง 17 มีประสิทธิภาพมากขึ้น เอาล่ะ ถ้าคุณพร้อมแล้ว เราก็ไปดูพร้อมๆ กันเลย

#1 การตลาดของ Facebook Messenger 

เรามาเริ่มกันที่เครื่องมือสำคัญอย่าง Facebook Messenger กันก่อนดีกว่า โดยเครื่องมือนี้จะมีรูปร่างหน้าตาที่ค่อนข้างขาวสะอาดแบบนี้

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

มีผู้คนไม่มากที่เลือกใช้การตลาดทาง Facebook Messenger แม้ว่ามันจะเป็นเครื่องที่มือที่ช่วยเพิ่มโอกาสในตลาดดิจิทัลมากก็ตาม วิธีการทำงานของมันก็ง่ายแสนง่าย แค่คุณส่งข้อความไปหาลูกค้าผ่านทาง Facebook Messenger เท่านั้นเอง

แล้วการส่งข้อความแบบนี้แตกต่างจากการส่งทางอีเมล หรือช่องทางอื่นๆ ยังไงล่ะ? ถ้าคุณสงสัยแบบนี้ เราก็มีคำตอบมาให้

– มีอัตราการเปิดอ่านข้อความ (Open Rate) 50-80% หากคุณส่งผ่าน Facebook Messenger
– มีอัตราการคลิกผ่าน (Click-through Rate) 20 % โดยเฉพาะถ้าคุณใช้เทคนิคการสร้างแชท
– มีอัตราการเข้าชมเนื้อหาในเว็บไซต์ (Conversion Rate)  มากกว่าโฆษณาใน Facebook 3-5 เท่า
– ลงทุนกับ Facebook Messenger Marketing ถูกกว่าลงทุนกับโฆษณาใน Facebook ถึง 30-50 เท่า

โดยเครื่องมือนี้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากคุณใช้ร่วมกับ Mobile Monkey Chatbot ที่จะช่วยเพิ่มอัตราต่างๆ ตามที่กล่าวมาด้านบนให้สูงขึ้น ที่สำคัญ Mobile Monkey ยังฟรีอีกด้วย

#2 Comment Guard (การตอบกลับส่วนตัวผ่านทาง Messenger)

Comment Guard เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการตลาดของ Facebook ที่ช่วยให้คุณเพิ่มผู้ติดต่อได้ทันทีที่พวกเขามาคอมเมนต์ในโพสต์ของคุณ แถมยังทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวช่วยมหัศจรรย์ที่เพิ่ม Engagement ได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีลักษณะการทำงานดังต่อไปนี้

1. คุณโพสต์ลงใน Facebook ตามปกติ
2. มีคนมาคอมเมนต์ใต้โพสต์
3. ใครก็ตามที่มาคอมเมนต์ จะได้รับข้อความตอบกลับผ่านทาง Messenger
4. เมื่อพวกเขามีส่วนร่วมกับการตอบกลับนี้ พวกเขาจะถูกเพิ่มลงในรายชื่อผู้ติดต่อใน Messenger โดยอัตโนมัติ

โดยการทำงานทั้งหมดจะเป็นไปตามรูปภาพด้านล่าง

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

ซึ่งคุณควรใช้คู่กับ Mobile Monkey โดยมีวิธีง่ายๆ ดังนี้
1. คลิกเลือกที่เมนู FB Comment Guard โดยใช้ Mobile Monkey
2. สร้างข้อความตอบกลับอัตโนมัติ
3. ติดตั้งไปที่ Messenger
4. เพิ่ม Comment Guard ไปยังโพสต์ที่คุณต้องการ

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

#3 Click to Messenger Ads

Click-to-Messenger Ad คือ โฆษณา Facebook ที่มาพร้อมความแตกต่าง แทนที่จะพาผู้คนไปยังหน้าโฆษณา (Landing Page) มันกลับพาไปยัง Facebook Messenger แทน

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

เป็นเรื่องยากที่คุณจะตอบกลับข้อความของลูกค้าจำนวนมากด้วยตัวเอง คุณจึงควรใช้ Messenger Ads ให้พาลูกค้าไปหา Chatbot ของ Mobile Monkey แทนได้ Chatbot ก็จะทำการสอบถามและพูดคุยกับลูกค้าในเบื้องต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Engagement ให้คุณได้แล้วส่วนหนึ่ง

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

#4 Chat Blaster

Chat Blaster เป็นเครื่องมืออันทรงพลัง ที่สามารถนำข้อความที่สำคัญจากข้อความทั้งหมดใน Facebook Messenger ของคุณมาแสดงได้ภายในไม่กี่นาที Neil ก็ใช้เครื่องมือนี้เช่นกัน โดย Chat Blaster ทำให้ Neil สามารถดูข้อความที่มี Open Rate 96.9% ได้ภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

หากคุณใช้ร่วมกับ Mobile Monkey ด้วย คุณก็จะจัดตารางของ Chat Blaster การเพิ่มจำนวนส่งข้อความ การพัฒนาร่วมกันของ Messenger สร้างข้อเสนอใหม่ๆ หรืออะไรก็ตามที่ช่วยธุรกิจของคุณได้

ถ้าคุณอยากใช้วิธีนี้ล่ะก็ ให้เริ่มต้นด้วยการคลิก “Chat Blaster” ในแอปฯ เพื่อเป็นการเริ่มใช้งาน

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

ข้อดีของ Chat Blaster  อีกอย่างหนึ่งคือ มันช่วยให้คุณใส่ประเภทธุรกิจของตัวเองได้ โดยคุณไม่จำเป็นต้องจมอยู่กับข้อความของลูกค้านับร้อยนับพันอีกต่อไป เพราะ Chat Blaster จะทำให้คุณมองเห็นกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

คุณสามารถตั้งค่าธุรกิจผ่านทาง Mobile Monkey ได้ตามภาพนี้

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

หลังจากนั้น เวลาที่ลูกค้าถามคุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ตอบให้เสียเวลา เพราะ Facebook ได้เตรียมคำตอบรอให้คุณคลิกเลือกไว้แล้ว

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

#5 Messenger Scan Codes

เชื่อว่าทุกคนคงรู้จัก QR Code กันแล้ว แม้ว่า QR Code ใน Facebook อาจจะยังไม่โดดเด่นเท่าไรนัก แต่ก็ถือว่าเป็นไอเดียดีๆ ที่ไม่ควรมองข้าม หากคุณอยากมี QR Code ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. คลิกที่รูปโปรไฟล์มุมขวาบนใน Messenger
2. หลังจากนั้นให้คลิกที่รูปโปรไฟล์ของคุณอีกครั้ง
3. รูปที่ปรากฏขึ้นมาคือรูป Messenger Code ของคุณ

ผู้คนก็จะสามารถเพิ่มคุณเข้าไปในรายชื่อผู้ติดต่อได้ ซึ่งนับว่าเป็นวิธีที่ชาญฉลาด และสะดวกสบายในการเพิ่มลูกค้ามากทีเดียว

#6 เชิญผู้ที่มีส่วนร่วม

อีกวิธีหนึ่งที่ Neil เลือกใช้ในการเพิ่ม Engagement คือ การส่งคำเชิญไปยังคนที่มีส่วนร่วมกับ Facebook ของเขา ให้มากดถูกใจแฟนเพจของเขาด้วย

คุณสามารถรู้ได้ว่าใครมีส่วนร่วมกับ Facebook ของคุณบ้าง เพราะปุ่มเชิญจะปรากฏให้เห็นตามนี้

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

ข้อดีของการใช้วิธีนี้คือ คุณจะรู้ได้เจาะจงมากขึ้นว่าใครบ้างที่คุณควรส่งคำเชิญ และใครบ้างที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ ถ้าคุณมีเพื่อนใน Facebook หรือคนถูกใจแฟนเพจเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มี Engagement เลย ก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไรแน่นอน ดังนั้น การค้นหาว่าใครมีส่วนร่วมกับ Facebook ของคุณ แล้วลงมือเชิญทันทีจะส่งผลดีมากกว่า

#7 ส่งคำเชิญส่วนตัวผ่านทาง Messenger

วิธียอดนิยมที่คนส่วนใหญ่เลือกทำก็คือ การส่งคำเชิญไปยังเพื่อนหรือคนรู้จัก ให้มากดถูกใจแฟนเพจของตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ดีทีเดียว เพราะคุณสามารถส่งข้อความส่วนตัวไปเชิญพวกเขาได้

ขั้นตอนการเชิญก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่คุณคลิกที่เครื่องหมาย “…” บนหน้าแฟนเพจของคุณ หลังจากนั้น ให้เลือก “Invite Friends”

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

เพียงเท่านี้ คุณก็จะเชิญเพื่อนและคนรู้จักของคุณได้ตามที่ต้องการ อย่าลืมเช็กที่ด้านล่างสุดของกรอบคำเชิญด้วย เพื่อที่คุณจะได้ส่งคำเชิญผ่าน Messenger ได้อีกช่องทางหนึ่ง

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

#8 ส่งคำเชิญให้เข้าร่วมกลุ่มผ่านทางอีเมล

คุณสามารถเพิ่ม Engagement ได้ด้วยการสร้างกลุ่มใน Facebook หลังจากนั้นจึงส่งคำเชิญผ่านทางอีเมล ซึ่งคุณสร้างกลุ่มได้ด้วยการคลิกเลือกคำว่า “Members” ทางฝั่งซ้ายในหน้าของ Facebook

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

ในหน้าต่อมา คุณก็สามารถเลือกอีเมลของเพื่อนหรือคนรู้จักที่คุณต้องการเชิญพวกเขาให้เข้าร่วมกลุ่ม และยังเขียนข้อความถึงพวกเขาได้อีกด้วย

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

#9 ใช้ประโยชน์จากโฆษณาของคู่แข่ง

ในโลกของ SEO การใช้ประโยชน์จากโฆษณาของคู่แข่งนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย  เพียงแค่ทำการปลั๊กอิน URL ลงใน RankSignal แบบนี้

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

คุณก็จะได้ข้อมูลของคู่แข่งที่คุณต้องการทันที

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

และบางข้อมูลนั้นก็เป็นประโยชน์มากทีเดียว

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

แต่ปัจจุบันนี้ แบรนด์ต่างๆ ล้วนลงทุนกับโฆษณาของ Facebook เป็นจำนวนมหาศาล แล้วคุณจะหาข้อมูลเหล่านี้ได้ยังไงกัน?

แน่นอนว่าคุณไม่อาจรู้ได้ว่าคู่แข่งของคุณจ่ายเงินค่าโฆษณาไปเท่าไร และมีข้อมูลลับอะไรบ้าง แต่คุณก็ยังรู้ได้ว่าพวกเขาลงทุนที่ไหน เมื่อไร และลงทุนเกี่ยวกับโฆษณาอะไร

หากคุณอยากตรวจสอบคู่แข่งของคุณ ขั้นแรกให้ไปที่หน้าเพจของพวกเขาใน Facebook และคลิก “i” ที่มุมขวาของเพจ

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

จากปุ่ม “i” นี้ คุณจะรู้ว่าพวกเขามีการเปลี่ยนชื่อเพจหรือไม่ เพจนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อไร และที่ไหน 

หลังจากนั้นให้คุณคลิกที่ “Active Ads”

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

ถ้าคู่แข่งของคุณทำโฆษณากับ Facebook คุณก็จะรู้ได้ทันทีเช่นกัน

#10 ตรวจหาเพจที่เป็นคู่แข่ง

เป็นเรื่องดีที่คุณจะรู้ว่าใครเป็นคู่แข่งของคุณบ้าง โชคดีที่อัลกอริทึมของ Facebbok ช่วยให้คุณตรวจสอบหาคู่แข่งได้ ขั้นแรกให้คุณไปที่ Facebook Page Insight เมื่อเข้าไปใน Insight แล้ว ให้คุณเลื่อนลงมาเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอคำว่า “Pages to Watch”

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

Facebook จะแสดงเพจที่เป็นคู่แข่งของคุณทันที แต่ถ้าคุณยังอยากรู้เพิ่มเติมอีกว่ามีเพจอะไรบ้าง ก็ให้คุณคลิกเลือกไปยัง “ See More Suggested Pages”

เมื่อคุณเพิ่มเพจคู่แข่งลงใน Watched Page คุณก็จะสามารถรับรู้ได้ตลอดเวลา ว่าคู่แข่งของคุณกำลังทำอะไร จะมีกิจกรรมใดเกิดขึ้นบ้าง รู้แม้กระทั่งอัตราการเติบโต ผลรวมของยอดไลก์ และความถี่ในการโพสต์ของพวกเขา โดยข้อมูลต่างๆ ที่คุณได้รู้จะทำให้คุณมองเห็นและเข้าใจว่าคุณควรปรับเปลี่ยนเพจของคุณไปในทิศทางใด

#11 หาวิธีเพิ่มผู้ติดตาม

การเพิ่มผู้ติดตามก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เพจของคุณมีชื่อเสียงมากขึ้น รวมทั้งช่วยเพิ่มรายได้และ Engagement อีกด้วย โดยให้คุณใช้ข้อมูลจากเครื่องมือที่ #10 มาใช้ต่อในข้อนี้ได้เช่นกัน 

เริ่มจากการไปที่ Facebook Page Insight แล้วคลิกเลือก “Followers” เลื่อนลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอคำว่า “Where Your Page Follows Happened”

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

Facebook จะแสดงจำนวนผู้ติดตามโดยอิงจาก 5 แหล่ง คือ จากเพจของคุณ จากการค้นหา จากเดสก์ท็อป จากโพสต์ของคุณ และจากแหล่งอื่นๆ 

หากคุณพบว่าแหล่งใดที่มีอัตราผู้ติดตามมากที่สุด ก็ให้คุณโฟกัสที่แหล่งนั้น แล้วพยายามนำเทคนิคการเพิ่มผู้ติดตามที่คุณใช้ มาปรับใช้ให้เหมือนกันในทุกแหล่ง

#12 จำแนกจุดเด่นของลูกค้าด้วย Page Insight

อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วย Neil ให้พัฒนาตลาดของตัวเองได้คือ การสำรวจ Facebook Page Insight จากเพจของตัวเอง แล้วโฟกัสไปที่ข้อมูลที่เกี่ยวกับสถิติหรือจำนวนผู้คนใน Facebook

หลังจากที่เห็นข้อมูลเหล่านั้นแล้ว Neil จะพิจารณาว่า ลูกเพจของเขาส่วนใหญ่เป็นเพศอะไร หรือเป็นชาวอะไร  ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลจากเพจของ Neil แสดงให้เห็นสถิติที่น่าเชื่อถือว่า เพจของเขามีผู้เข้าชมทั้งชายและหญิงอยู่ในช่วงอายุ 25-44 ปี

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

เมื่อรู้ช่วงอายุและเพศของผู้เข้าชมเพจโดยส่วนใหญ่แล้ว Neil ก็สามารถปรับเทคนิคทางการตลาด ปรับวิธีโพสต์ และวิธีโฆษณาต่างๆ ให้ดึงดูดใจลูกเพจในช่วงอายุเหล่านี้ได้มากขึ้น

#13 การขออีเมล

ปัจจุบันนี้ อีเมลไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะแสดงให้เห็นกันง่ายๆ อีกต่อไปแล้ว หากคุณเอ่ยขออีเมลคนอื่น นั่นก็เท่ากับว่าคุณอาจจะกำลังคุกคามความเป็นส่วนตัวในโซเชียลมีเดียของพวกเขาก็ได้ เพราะพวกเขาอาจผูกบัญชีโซเชียลฯ ไว้กับอีเมล แต่นั่นก็เป็นแค่สมมุติฐานเก่าๆ เพราะคนส่วนใหญ่มักมีหลายอีเมล เพื่อแยกใช้ระหว่างเรื่องส่วนตัวและการทำงาน ดังนั้น ปัญหาในการขออีเมลที่แท้จริงก็คือ “การพิมพ์ชื่ออีเมล” ผิดต่างหากล่ะ

บางคนชื่ออีเมลอาจจะยาว หรืออาจมีตัวอักษรมากจนทำให้พลาดสะกดผิด และผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ คุณจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากอีเมลที่สะกดผิดแบบนั้น

แต่เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นใน Facebook Messenger แน่นอน

คุณสามารถสร้าง Chatbot เพื่อเอ่ยขออีเมลจากลูกค้าได้ สิ่งที่ลูกค้าต้องทำก็แค่คลิกเพื่อเติมชื่ออีเมลให้สมบูรณ์เท่านั้น

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

เมื่อคุณตั้งค่าแบบนี้เรียบร้อยแล้ว Facebook ก็จะรู้โดยอัตโนมัติ เวลาที่คุณเอ่ยขออีเมลจากผู้อื่น มันจะแสดงอีเมลที่พวกเขาใช้ในบัญชี Facebook เพื่อรอให้พวกเขาตรวจสอบว่าอีเมลถูกต้องหรือไม่เท่านั้น

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยเพิ่ม Engagement และทำให้คุณได้ข้อมูลของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วเพราะใช้ Chatbot นั่นเอง

#14 การขอเบอร์โทรศัพท์

ถ้าการขออีเมลว่ายากแล้ว การขอเบอร์โทรศัพท์อาจยากกว่า

แต่ในเมื่อคุณมี Mobile Monkey คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป โดยวิธีนั้นก็คล้ายๆ กับการขออีเมล เพียงแต่ให้คุณเปลี่ยนจากประเภทอีเมล มาเป็นประเภทโทรศัพท์แทน

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

อาจจะมีบางคนที่ไม่สะดวกใจในการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว แต่ Chatbot ก็จะทำการเอ่ยขอเบอร์โทรศัพท์ และ Facebook ก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายด้วยการแสดงเบอร์ที่ลูกค้าของคุณใช้ผูกกับบัญชี Facebook ทันที และรอให้พวกเขาตัดสินใจว่าจะคลิกตอบคุณหรือไม่

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

#15 Website Chat Widget

ขั้นแรก ให้คุณลองไปที่หน้าเว็บไซต์ของ Mobile Monkey เพื่อดู Chat Widget ที่ใกล้เคียงกันในทุกเพจ

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

หากคุณล็อกอิน Facebook Messenger ในเบราว์เซอร์ คุณก็แค่คลิกเพื่อทำให้ Mobile Monkey เข้าถึง Messenger ของคุณ Chatbot ของ Mobile Monkey ก็จะเตรียมพร้อมช่วยคุณในเรื่องการตอบลูกค้าได้เต็มที่

ซึ่งฟีเจอร์หนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์มากก็คือ Self-guided ที่จะทำให้คุณได้ควบคุม จัดการ และเลือกตัดสินใจในเรื่องต่างๆ จากหลากหลายตัวเลือกได้

#16 ค้นหา Facebook Conversion ที่เจาะจง

ข้อดีของ Facebook Ads Manager คือ ทำให้คุณได้รับข้อมูลต่างๆ มากมาย ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจและแฟนเพจของคุณเอง แต่เชื่อไหมว่า การรับรู้ข้อมูลที่มากมายเช่นนี้ก็เป็นข้อเสียเช่นเดียวกัน

สิ่งที่คุณต้องทำคือพิจารณาหา ว่าข้อมูลใดและ Conversion ใดบ้างที่คุณต้องการจาก Facebook และลูกค้า หากคุณตัดสินใจได้ว่าควรเลือกติดตามข้อมูลแบบไหน นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคุณตัดสินใจไม่ได้ ภาพด้านล่างนี้คือตัวเลือกของคุณ

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

ตัวเลือกเหล่านี้เป็นดังเส้นทางลับ ที่คุณจะต้องคิดให้ได้ว่าไปทางใดจึงจะดีที่สุด ในกรณีนี้ Neil Patel ได้ตัดสินใจเลือกโฟกัสเฉพาะ Conversion ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเขาเท่านั้น

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

เมื่อคุณรู้ว่าคุณควรโฟกัสอะไร คุณก็ไม่ควรสนใจอย่างอื่น เพราะสิ่งเหล่านั้นกลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ไปแล้ว หากคุณได้ข้อมูลที่ส่งผลดีกับธุรกิจของคุณ ก็ให้คุณลงมือทำต่อไป ไม่ว่าจะสร้างโฆษณาทาง Facebook หรือวิธีอื่นๆ ก็ตาม เพราะเมื่อคุณเริ่มต้นเร็ว โอกาสในการเพิ่ม Engagement ก็จะยิ่งสูงมากขึ้น

#17 Messenger Drip Campaigns (การตลาดแบบหยดใน Messenger) 

การตลาดแบบหยดคือ กลยุทธ์ที่ใช้การติดต่อสื่อสารผ่านทาง Messenger หรือบทความ เพื่อทำให้คุณและว่าที่ลูกค้าได้ติดตามและสื่อสารกันอย่างถูกเวลา หากคุณอยู่ในแวดวงการตลาดมาสักช่วงหนึ่งแล้ว คุณจะเข้าใจว่าการตลาดแบบหยดนั้นมีอิทธิพลมากขนาดไหน เพราะบางครั้ง กลยุทธ์นี้ก็ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจได้ถึง 10 เท่า

Mobile Monkey ก็เปิดโอกาสให้คุณทำกลยุทธ์นี้ได้เช่นกัน เพียงแค่คลิกในแอปฯ เพื่อเป็นการเริ่มต้น

Engagement_การเพิ่ม Engagement_การตลาด Facebook_เทคนิคการตลาดออนไลน์_เทคนิคการทำ SEO_รับทำ SEO

ถ้าเป็นการตลาดแบบหยดผ่านทางอีเมล มันอาจจะต้องใช้เวลาเป็นวัน หรือเป็นอาทิตย์กว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ แต่การตลาดแบบหยดใน Messenger นั้นใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที หรือไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

และทั้งหมดนี้คือ 17 เครื่องมือลับ ที่ช่วยเพิ่ม Engagement ใน Facebook ของคุณได้อย่างเห็นผล แต่อย่างที่เราได้กล่าวไว้ว่า วิธีเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากคุณใช้ร่วมกับ Mobile Monkey แอปพลิเคชันที่คุณสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี แต่พร้อมให้ผลลัพธ์ได้อย่างน่าทึ่ง เมื่อคุณผสาน Mobile Monkey และ Facebook เข้าด้วยกันแล้ว นั่นก็หมายความว่า คุณพร้อมที่จะเพิ่ม Engagement ใน Facebook ได้อย่างเต็มที่แล้วล่ะ

อ้างอิงจาก https://neilpatel.com/blog/facebook-marketing-tools/

บทความล่าสุด

  • เทคนิคปรับแต่ง SEO ด้วย Google Analytics
  • Google Search Console เพิ่มประสิทธิภาพ SEO ได้อย่างไร?
  • Voice SEO กลยุทธ์การตั้งรับการค้นหาด้วยเสียง
  • คู่มือฉบับย่อ อัลกอริทึม RankBrain ของ Google
  • SEO เทคนิคเสี่ยงๆ ที่รู้แล้วต้องลอง!
  • 4 ขั้นตอนสร้าง SEO Title Tags แบบภายในที่สมบูรณ์
  • แนวทางปฏิบัติในการสร้าง WordPress SEO อย่างง่าย
  • 7 ขั้นตอนในการเขียนโฆษณา SEO เพื่ออันดับ Content บน Google
  • 10 สุดยอดเว็บไซต์รูปภาพฟรี ไม่มีลิขสิทธิ์ สำหรับบล็อกของคุณ
  • เทคนิคการทำ SEO ให้ได้ผลรวดเร็วทันใจ!! …
  • เริ่มแบบเริดๆ กับวิธีเริ่มทำ SEO ของ Startup
  • สุดยอดคู่มือการทำ SEO Meta Tags
  • 17 แผนภูมิแสดงทิศทางโซเชียลมีเดีย เพื่อความสำเร็จของคุณ
  • 8 กลยุทธ์ในการปรับปรุง SEO แบบที่ไม่ต้องเขียนเนื้อหาใหม่
  • สุดยอดกลยุทธ์ “Skyscraper” : เส้นทางสู่ความสำเร็จ
  • ห้ามพลาด! 7 Report จาก Google Analytics
  • “เว็บเพจของฉัน ฉันเลือกเอง” ชุบชีวิตเว็บไซต์ไม่ให้เงียบเหงา
  • เอาชนะคู่แข่งด้วย 5 ขั้นตอนการสร้างคอนเทนต์ที่แข็งแกร่ง
  • วิธีการสร้างวีดีโอโฆษณา Facebook สำหรับใช้การงานบนโทรศัพท์มือถืออย่างมืออาชีพ
  • Off-Page SEO คืออะไร? และทำไมจึงสำคัญ?

ป้ายกำกับ

backlink Black Hat SEO Digital marketing Google Google ติดอันดับ Homepage SEO Personal Brands SEO Social Media กลยุทธ์ SEO กลยุทธ์เพิ่ม Backlink การตลาดออนไลน์ การทำ SEO การทํา seo wordpress การสร้าง backlink การสร้าง Content ขั้นตอนการทำ SEO ติดอันดับ google ทำ Backlink ทำ SEO ทำ seo Google ทำ SEO ติดอันดับ ทำ seo ติดอันดับหน้าแรก ทำ SEO ให้ติดหน้าแรก Google ทำ SEO ให้ติดอันดับ Google ทํา seo google บทความ SEO บริษัทรับทำ SEO รับทำ SEO รับทำเว็บไซต์ติด google วิธีการสร้างโฮมเพจ วิธีทําให้เว็บติดอันดับ google อันดับ Google อันดับเว็บไซต์ของ Google เขียน Blog เขียน content เครื่องมือ SEO เครื่องมือ SEO Google เทคนิค SEO เทคนิคการตลาดออนไลน์ เทคนิคการทำ SEO เทคนิคเพิ่ม traffic เพิ่ม traffic ให้กับเว็บไซต์ เพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บ โซเชียลมีเดีย

หมวดหมู่

  • Content Marketing (15)
  • Digital Marketing (28)
  • Internet Marketing (6)
  • SEO (97)

Meta

  • เข้าสู่ระบบ
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org